"ดีดีพร็อพเพอร์ตี้" เผยดัชนีราคาที่อยู่อาศัยกรุงเทพฯ ลด 2% อยู่ที่ 197 จุด ต่ำสุดรอบ 14 ไตรมาส คาดแนวโน้ม ราคา-อุปทาน ลดลงต่อเนื่องช่วงครึ่งปีแรก หวังวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 มาตรการเยียวยา เพิ่มเติมจากภาครัฐเร่งการฟื้นตัว
นางกมลภัทร แสวงกิจ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ กล่าวว่า จากการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50%ต่อปี เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง สาเหตุหลักมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่น่าจะน้อยกว่าที่คาด และความไม่แน่นอนจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลต่อการฟื้นตัวสภาพเศรษฐกิจ ที่คาดว่าปี 2564 จะโต 3.2%
เมื่อผนวกกับกำลังซื้อต่างชาติที่หายไปนาน ความไม่แน่นอนทางการเมือง อาจทำให้ ตลาดอสังหาฯ ฟื้นตัวช้าลงจากที่คาดไว้ช่วงครึ่งหลังปีนี้ โดย DDproperty Thailand Property Market Index ล่าสุด พบว่าโควิด-19 ระลอกใหม่ผลให้แนวโน้มราคาอสังหาฯลดลง ต่อเนื่องจากไตรมาส 4 ปีที่แล้ว และจะไม่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีแรกนี้
ส่วนดัชนีอุปทานก็มีแนวโน้มลดลงเช่นกัน เนื่องจากผู้ประกอบการหันมาเร่งระบายสต็อกคงค้างและชะลอการเปิดโครงการใหม่ ขณะที่ความต้องการซื้อก็ถูกดูดซับไป จำนวนมากจากสงครามราคาที่รุนแรง ช่วงที่ผ่านมา
โดยข้อมูลผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ ทั่วประเทศรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา พบว่า 74% สนใจเข้าชมประกาศซื้อ-ขาย-เช่าที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท ในขณะที่ระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท มี 55%
ส่วนทิศทางราคาแนวราบยังทรงตัว จากสงครามราคา โดยดัชนีราคาอสังหาฯ ไตรมาสที่ผ่านมามีแนวโน้มลดลงทุกรูปแบบที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะประเภทคอนโดฯ ที่ดัชนีราคาลดลง 2% จากไตรมาสก่อน และลดลงถึง 5% ในรอบปี (YoY) ในขณะที่แนวราบ การที่ผู้บริโภคหันมาสนใจมากขึ้นหลังจากต้องทำงานที่บ้าน (Work from Home) ทำให้ดัชนีราคาทาวน์เฮ้าส์ยังคงทรงตัว ขณะที่บ้านเดี่ยวแม้ดัชนีราคาจะลดลง 2% จากไตรมาสก่อน แต่ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 10% ในรอบ 2 ปี สะท้อนให้เห็นโอกาสจากกลุ่มผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงที่ยังคงมีอยู่ในตลาด
ขณะเดียวกันประกอบการอสังหาฯ นักลงทุน และผู้บริโภคที่ต้องการขาย อสังหาฯ ชะลอการขายออกไปก่อน โดยรายงานล่าสุดพบว่า ดัชนีอุปทานลดลงมา อยู่ที่ 363 จุด จาก 385 จุด หรือลดลง 6% จากไตรมาสก่อน และคาดการณ์ว่าจะส่งผลต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 1 ไตรมาส
ในช่วงที่ผ่านมาตลาดคอนโดฯ ถือว่าได้รับผลกระทบมากที่สุดจนมีสินค้าคงค้าง ในตลาดเป็นจำนวนมาก แม้ไตรมาสนี้ จำนวนอุปทานคอนโดฯ จะลดลงจากไตรมาสก่อน 7% แต่เมื่อมองภาพรวมแล้วยังคงมีสัดส่วนมากที่สุดถึง 88% ของจำนวนอุปทานทั้งหมดในกรุงเทพฯ ในขณะที่ดัชนีอุปทานบ้านเดี่ยวมีสัดส่วน 7% และทาวน์เฮ้าส์ 5%
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ : 12 กุมภาพันธ์ 2564