SENA ลุย 10 โครงการอสังหาฯพร้อมนวัตกรรมโซลาร์รูฟท็อป เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ลงทุนกว่า 7,500 ล้านบาท ชวนลูกบ้าน 1 พันหลังร่วมโครงการโซลาร์ มูฟ สร้างการเรียนรู้พลังงานสะอาด
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA ในฐานะผู้ดำเนินการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โครงการหมู่บ้านโซลาร์เซลล์เต็มรูปแบบรายแรกของไทย เปิดเผยว่า ปี 2563 มีแผนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้วยระบบ โซลาร์รูฟท็อปให้กับทุกโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมเปิดโครงการใหม่อีก 10 โครงการ รวมมูลค่า 7,500 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 6 โครงการ และแนวราบ 4 โครงการ
ทั้งนี้ มีความเชื่อมั่นในการให้บริการแก่ลูกบ้าน ในระบบพลังงานสะอาดที่สามารถใช้ได้ในที่พักอาศัย เนื่องจากเป็นความตั้งใจ และเป็นเป้าหมายของเสนาที่ต้องการนำระบบโซลาร์เข้ามาใช้ภายในโครงการ ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศโลกร้อน ทำให้ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติต่างๆ ดังนั้นการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานสะอาดจึงมีส่วนสำคัญในการช่วยลดภาวะโลกร้อน และยังเป็นพลังงานที่อยู่ในกระแสของทุกประเทศได้มุ่งส่งเสริมสู่การใช้พลังงานสะอาดให้มากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ได้นำโครงการที่ติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งบนหลังคาที่อยู่อาศัย (Solar Rooftop) 7 โครงการ (1,000 หลัง) เข้าร่วมโครงการรณรงค์ส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโซลาร์รูฟท็อป (Solar Rooftop) เข้าสู่ชุมชน เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ของการใช้ไฟฟ้าภาคครัวเรือน หรือ โซลาร์ มูฟ (Solar Move) ที่ดำเนินการโดยมูลนิธิสถาบันพลังงานทางเลือกแห่งประเทศไทย (AEITF) ในการนำโครงการบ้านจัดสรรที่ติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อปที่ใช้ในภาคครัวเรือนมาเป็นศูนย์การเรียนรู้ให้กับชุมชนให้เข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญของพลังงานสะอาด
สำหรับโครงการเสนาที่เข้าร่วมโครงการโซลาร์ มูฟ จำนวน 7 โครงการ หรือ ประมาณ 1,000 หลัง ประกอบด้วย 1.โครงการ เสนาพาร์ควิลล์ รามอินทรา 2.เสนาทาวน์ รามอินทรา 3.เสนาช็อปเฮาส์ บางแค-เทอดไท 4.โครงการเสนาอเวนิว บางกะดี่ 5.เสนาช็อปเฮาส์ สุขุมวิท 113 และ6.เสนาช็อปเฮาส์ ลำลูกกา คลอง 2 7.เสนาช็อปเฮาส์ พหล-คูคต เนื่องจากโครงการเหล่านี้ มีการติดตั้งโซลาร์รูปท็อป ทั้งในพื้นที่ส่วนกลางและที่พักอาศัย ซึ่งปัจจุบันมีลูกบ้านเข้าพักอาศัยจำนวนมาก ที่ได้รับประโยชน์จากการติดตั้งระบบดังกล่าวไม่ว่าจะเป็นการลดค่าใช้จ่าย ค่าไฟฟ้าภายในครัวเรือนและส่วนกลาง ถือเป็นระบบที่มีความทันสมัยโดยการใช้เทคโนโลยีผ่านระบบแอพพลิเคชั่น 360 องศาของเสนา ที่สามารถใช้บนสมาร์ทโฟน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านในการติดตามปริมาณการผลิตไฟฟ้าและการใช้ไฟฟ้าแต่ละชิ้นภายในบ้าน รวมถึงการซ่อมบำรุงแผงโซลาร์ เป็นต้น
ที่มา : posttoday.com
วันที่ : 3 มีนาคม 2563