"ภูเก็ตและเกาะสมุย" ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวสวยงามติดระดับโลกที่บรรดานักธุรกิจชาวไทยและต่างชาติสนใจเข้าไปพัฒนาโครงการด้านอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ ซึ่งมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด
"ภัทรชัย ทวีวงศ์" รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมภาคใต้ที่ผ่านมากำลังซื้อต่างชาติอยู่ที่จังหวัดภูเก็ตและเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ส่วน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มีนักธุรกิจมาเลย์เข้ามาลงทุนโครงการอาคารชุด แต่เป็นสเกลที่ค่อนข้างเล็กมาก ทั้งนี้ ปัจจุบันภูเก็ตมีนักท่องเที่ยวจีนมีแนวโน้มลดลง แต่มีตลาดมาเลเซียและอินเดียเพิ่มขึ้นกว่า 40% มาทดแทน ค่อนข้างน่าสนใจที่ทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตไม่ชะงัก และตลาดคอนโดมิเนียมมีมากกว่า 3 พันยูนิต ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 และคาดว่าภาพรวมในปีนี้น่าจะมีโครงการเปิดใหม่มากกว่า 5 พันยูนิต ส่วนใหญ่มีการขายประกันอัตราผลตอบแทน (yield guarantee) สูง เน้นตลาดต่างชาติ โควตา 49% เรียกว่าเต็มทั้งเกาะ แม้ราคาขายจะบวกเพิ่มไปเป็น 10% จากราคาที่ขายคนไทย ผู้ประกอบการบางรายต้องยอมปล่อยเช่ายูนิตที่คงค้างในส่วนของคนไทยเพราะกำลังซื้อคนไทยค่อนข้างมีน้อย ยกเว้นโลเกชั่นในเมืองที่กำลังซื้อส่วนใหญ่จะเป็นคนไทย โดยภาพรวมของภูเก็ตอัตราการขายทั้งเกาะที่ผ่านมาอยู่ที่ 70.5% ปัจจุบันเหลือเพียง 29-30% เท่านั้น
การลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ของจังหวัดภูเก็ตที่ผ่านมา ผู้ประกอบการต่างชาติส่วนใหญ่เน้นลงทุนวิลล่า ราคา 15-40 ล้านบาทหรือมากกว่า ตามชายหาดสำคัญ เช่น หาดกมลา หาดสุรินทร์ หาดรายัน เป็นต้น โดยวางเป้าหมายกำลังซื้อจากชาวต่างชาติ นอกจากนี้ เน้นทำตลาดคอนโดมิเนียม โดยช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการต่างชาติเข้ามาลงทุนค่อนข้างมากมีการการันตี เช่น ผู้ประกอบการบางรายให้ยีลด์ 10% ใน 20 ปี โดยการให้เช่าหรือขายต่อ บางโครงการครบ 10 ปีมีการการันตีซื้อคืน แต่หากโครงการใดยีลด์ต่ำกว่า 7% จะเป็นตัวเลือกท้ายๆซึ่งเป็นรูปแบบการขายที่น่าสนใจ ส่วนโครงการแนวราบเป็นตลาดคนไทยที่ไม่ค่อยมีมากนัก ส่งผลให้คอนโดมิเนียมและวิลล่าในจังหวัดภูเก็ตเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีการแข่งขันค่อนข้างดุเดือด อย่างกลุ่มดีเวลอปเปอร์จากออสเตรเลียที่เข้ามาพัฒนาโครงการคอนโดฯ-วิลล่ามากกว่า 10 โครงการในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน เกาะสมุยเป็นอีกหนึ่งทำเลที่มีต่างชาติเข้าไปลงทุนมากพอสมควร กระจุกตัวอยู่หลายทำเล เช่น แม่น้ำบ่อผุด หาดเชิงมน หาดละไม ส่วนใหญ่ เป็นวิลล่าตั้งอยู่ไต่ระดับเขา เดินทางค่อนข้างลำบากแต่วิวสวย มีการการันตีผลตอบแทนสูงเช่นเดียวกัน แต่ราคาอสังหาฯบนเกาะสมุยต่ำ
นอกจากนี้ยังมีโครงการของภาคเอกชนอีกมากมาย ทั้งกลุ่มเซ็นทรัล เดอะมอลล์กรุ๊ป เช่น โครงการ "ปอร์โต เดอ ภูเก็ต" เป็นคอมมิวนิตี้มอลล์ ตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ลากูน่า เป็นเดสติเนชั่น หลักของการท่องเที่ยวตลาดไฮเอนด์ และยังมีสวนน้ำ มูลค่าการลงทุนไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท ส่งให้ศักยภาพของจังหวัดภูเก็ตเติบโตมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวจากศูนย์อสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ระบุว่า ปัจจุบันโครงการบ้านจัดสรรที่อยู่ระหว่างการขายในจังหวัดภูเก็ต ในจำนวนหน่วยเหลือขาย 3,206 หน่วยเมื่อแยกตามสถานะของการก่อสร้างพบว่า ส่วนใหญ่เป็นหน่วยที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง จำนวน 1,989 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 62.0 ของหน่วยเหลือขายทั้งหมด รองลงมาเป็นหน่วยที่ยังไม่ก่อสร้าง จำนวน 771 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 24.0 และหน่วยที่สร้างเสร็จเหลือขาย จำนวน 446 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 13.9 โดยหน่วยที่อยู่ระหว่างก่อสร้างและสร้างเสร็จเหลือขาย (พร้อมโอน) หรือเป็น inventory ในตลาดมี 2,435 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 76.0 ของหน่วยที่เหลือขายทั้งหมด
ประมาณการอุปทานเหลือขายที่อยู่อาศัยในตลาดจังหวัดภูเก็ต มีจำนวนหน่วยเหลือขาย ณ ปี 2563 ประมาณ 5,277 หน่วย บ้านจัดสรรมีประมาณ 2,262 หน่วย คิดเป็น 42.9% อาคารชุด มีประมาณ 3,015 หน่วย คิดเป็น 57.1% หน่วยที่มีมากที่สุด คือ อาคารชุด 57.1% รองลงมาเป็นทาวน์เฮาส์ 19.4% บ้านแฝด 11.9% บ้านเดี่ยว 10.8% ที่เหลือเป็นอาคารพาณิชย์
ที่มา : หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ
21 พฤศจิกายน 2562