ชิค รีพับบลิค มั่นใจ ครึ่งปีหลังตลาดเฟอร์นิเจอร์ขยายตัว รับ อสังหาฯ เร่งโอน-เปิดตัวโครงการ
นายกิจจา ปัทมสัตยาสนธิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชิค รีพับบลิค ผู้ประกอบธุรกิจศูนย์รวมจัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ ชิค รีพับบลิค และริน่า เฮย์ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดเฟอร์นิเจอร์ของตกแต่งบ้านในช่วงครึ่งปีหลัง 2561 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น สอดคล้องกับการเติบโตของตลาดที่อยู่อาศัยที่ผู้ประกอบการต่างเร่งเปิดโครงการกันมากในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะตลาดกลาง-บน ทั้งบ้านแนวราบและคอนโดมิเนียมที่มีการเร่งโอน
สำหรับในช่วงเดือน ธ.ค. 2560 จนถึงปัจจุบัน บริษัทสามารถรับงานโครงการได้มากกว่า 100 ล้านบาท ทำให้ปัจจุบันบริษัทมีแบ็กล็อก หรืองานในมือมูลค่า 120 ล้านบาท โดยจะส่งมอบและรับรู้รายได้ภายใน 8-15 เดือนนับจากนี้ หรือคิดเป็น 25% ของยอดขายรวมในปี 2561 ที่คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตจากปีที่ผ่านมา 10-15% จากปี 2560 บริษัทมีรายได้ 622 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ โดยจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) จำนวน 360 ล้านหุ้น คาดว่าจะทำการซื้อขายหุ้นได้ภายในปีนี้
ทั้งนี้ เม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทมีแผนจะนำไปลงทุนขยายสาขาเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยกว่า 5 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯ หัวเมืองในต่างจังหวัด และในต่างประเทศ ภายใน 5 ปี โดยจะเปิดสาขาใหม่เพิ่มปีละ 1 สาขา จากปัจจุบันที่มีอยู่แล้ว 4 สาขา ในกรุงเทพฯ 3 สาขา และพัทยา 1 สาขา ซึ่งขณะนี้มีที่ดินรองรับแล้ว 3 สาขา คือ 1.รามอินทรา ใกล้โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี บนพื้นที่ 7 ไร่ เงินลงทุน 250 ล้านบาท คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จไตรมาส 3/2562 2.จ.อุดรธานี เป็นการเช่าที่ดินระยะยาว 30 ปี บนพื้นที่ 6 ไร่ ใช้เงินลงทุน 150 ล้านบาท โดยจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างภายในระยะเวลา 1-1 ปีครึ่ง และจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2563 และ 3.สาขากัมพูชา ตั้งอยู่ในห้างอิออน มอลล์ สาขา 2 กรุงพนมเปญ พื้นที่ 3,500 ตารางเมตร งบลงทุน 40 ล้านบาท จะเปิดให้บริการภายใต้แบรนด์ชิค ลีฟวิ่ง ในไตรมาส 3/2561
นอกจากนี้ บริษัทได้จับมือบริษัท คอมโพแสด ผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์แบรนด์คอมโพแสด (Composad) จากอิตาลี มาจำหน่ายในไทย เนื่องจากคอมโพแสดมองเห็นโอกาสทางธุรกิจและการเติบโตของตลาดในไทยและกลุ่มประเทศเออีซี ซึ่งเป็นพันธมิตรที่มีศักยภาพ มีฐานลูกค้าตรงกัน ซึ่งปัจจุบันส่งออกเฟอร์นิเจอร์ไปกว่า 70 ประเทศทั่วโลก
ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์