ตลาดอสังหาฯ ตอบรับมาตรการพยุงเศรษฐกิจ หลังรัฐบาล คสช. ส่งสัญญาณเตรียมจูงใจผู้ซื้อบ้านหลังแรก หักลดหย่อนดอกเบี้ยบ้าน ลดภาษีธุรกิจ เฉพาะค่าธรรมเนียมโอน-จดจำนอง ขณะที่ เน็กซัส ที่ปรึกษาอสังหาฯ เชื่อ ส่งผลตลาดครึ่งปีหลัง ซื้อ-ขาย คึกคัก นักลงทุนต่างชาติเกิดความเชื่อมั่น
นางนลินรัตน์ เจริญสุพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด บริษัทที่ปรึกษาและวิจัยตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวถึงทิศทางตลาดคอนโดมิเนียม กรุงเทพฯปริมณฑล หลังจากพบภาพรวมตลาดช่วง 3 เดือนแรกของปี (ม.ค.-มี.ค.) มีการเปลี่ยนแปลงปรับตัว ในจำนวนหน่วยเกิดใหม่ ลดลง 20% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และกลุ่มโปรดักต์ปรับสู่ระดับราคาจับต้องได้มากขึ้น ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อตารางเมตร สัดส่วน 75% ขณะเดียวกันมีความเปลี่ยนแปลงในกลุ่มประกอบการ พบรายใหม่ๆเข้ามาในตลาดมากขึ้นเช่นกัน ว่าเป็นผลมาจากปัจจัยดีมานด์ปรับตัว ซึ่งส่วนใหญ่มาจากผู้อยู่อาศัยจริงมากขึ้น ทั้งมาตรการแอลทีวี และการปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดมากขึ้น ยังทำให้ตลาดไฮเอนด์ มีความระมัดระวังกลุ่มนักลงทุนไทยลดลงด้วย อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง จะกลับมามีความคึกคักสูงขึ้น เพราะตลาดเข้าสู่จังหวะการปรับตัวจากแอลทีวี และคงมีความชัดเจนจากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่
พบจากบทเรียนในอดีต 13 ปีย้อนหลัง ประเด็นการเมืองเมื่อมีความนิ่ง จะช่วยส่งเสริมให้ราคาตลาดปรับสูงขึ้น เพราะจะก่อให้เกิดความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ ทำให้เกิดภาพการเข้ามาลงทุนของต่างชาติเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ นอกจากการเมืองที่จะมีผลต่อภาพรวม ตลาดปี 2562 แล้ว ปัจจัยที่จะมีต่อตลาดปีนี้ คาดยังจะมาจากนโยบายที่จะกระตุ้นธุรกิจหรือลดความร้อนแรงของธุรกิจ โดยพบมีสัญญาณที่ดี หลังจากนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เตรียมออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ การกระตุ้น ภาคอสังหาริมทรัพย์ ใน 3 ส่วนสำคัญ คือ การเพิ่มแรงจูงใจผู้ซื้อบ้านหลังแรก ผ่านโครงการบ้านล้านหลัง และมอบให้ ธอส.ปล่อยกู้ในกลุ่มราคาต่ำกว่า 2.5 ล้านบาท จะช่วยให้การซื้อขายคึกคัก และส่งผลให้ผู้ประกอบการใหม่ๆ หันมาพัฒนาในกลุ่มโปรดักต์ดังกล่าวเพิ่มขึ้น ขณะที่การทบทวนอัตราภาษีใหม่ๆนั้น เช่น ภาษีธุรกิจเฉพาะ เชื่อว่าจะทำให้บ้านที่มีการซื้อหาอยู่แล้ว มีความคล่องตัวและกระตุ้นกลุ่มบ้านมือสองได้ดี ส่วนปัจจัยภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จะกลายเป็นอีกปัจจัยให้ทั้งกลุ่มผู้ซื้อบ้านหลังแรกและหลังที่ 2 รวมถึงกลุ่มผู้ซื้อลีสโฮลด์ (เช่าระยะยาว) นำมาพิจารณาด้วย
นางนลินรัตน์ ยังกล่าวว่า ในช่วงครึ่งหลังปี 2562 หลังการจัดตั้งรัฐบาลใหม่เสร็จสิ้น คาดจะทำให้ตลาดต่างชาติ และตลาดผู้ซื้อและนักลงทุนคนจีนกลับมาคึกคักอีกครั้ง จากความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะได้เห็นภาพการลงทุนใหม่ๆ ในกลุ่มคอนโดฯราคากลางและซิตีคอนโดฯ (ไม่เกิน 7.5 หมื่นบาท/ตร.ม.) ซึ่งเป็นกลุ่มหลักที่ผู้ซื้อคนไทยต้องการ
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
25 เมษายน 2562