เจแอลแอล ระบุเจ้าของที่ดินกลางกรุงเทพฯ นิยมปล่อยเช่าระยะยาวแทนการขายขาด เหตุราคาที่ดินพุ่ง
นางสุพินท์ มีชูชีพ กรรมการผู้จัดการ เจแอลแอล เปิดเผยว่า การให้เช่าที่ดินระยะยาวเป็นกลยุทธ์ที่ดีสำหรับเจ้าของที่ดินที่ต้องการแปลงอสังหาริมทรัพย์ของตนให้เป็นสินทรัพย์ที่สามารถสร้างรายได้ให้อย่างสม่ำเสมอในระยะยาว อีกทั้งยังไม่ต้องรับความเสี่ยงจากการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ขึ้นมาเอง
ขณะเดียวกันราคาที่ดินที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้การซื้อที่ดินในทำเลชั้นดีของกรุงเทพฯ เพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างรายได้ในรูปของค่าเช่า มีความคุ้มค่าการลงทุนลดลงเรื่อยๆ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าเหตุใดจึงมีการเช่าที่ดินระยะยาวมากขึ้นในหมู่บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการลงทุนสร้างโรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า ไปจนถึงโครงการมิกซ์ยูสในทำเลชั้นดีกรุงเทพฯ
ทั้งนี้ การจ่ายค่าเช่าระยะยาวผู้พัฒนาโครงการไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่ในการซื้อ ดังนั้นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายรายจึงมองว่าการเช่าเป็นกลยุทธ์ที่ดีกว่าสำหรับการบริหารจัดการกระแสเงินหมุนเวียน เพราะสามารถใช้เงินทุนที่มีหรือที่ระดมมาไปลงทุนกับการก่อสร้างเป็นหลัก ปัจจุบันมีที่ดินเอกชนจำนวนหนึ่งที่กำลังเสนอให้เช่าระยะยาว อาทิ ที่ดินในถนนสุขุมวิท ซอย 6 หรือซอยนานา เสนอให้เช่าระยะยาว 30 ปี พร้อมใบอนุญาตสำหรับก่อสร้างโรงแรมขนาดกลาง อีกแปลงเป็นที่ดินในย่านอโศก สามารถสร้างโรงแรมที่เป็นอาคารสูงพื้นที่อาคารรวมสูงสุดได้ถึง 1.6 หมื่นตารางเมตร เป็นต้น
นางสุพินท์ กล่าวว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การปล่อยเช่าที่ดินระยะยาวในทำเลชั้นดีของกรุงเทพฯ ถูกผูกขาดโดยหน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ อาทิ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ การรถไฟแห่งประเทศไทย และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งการมีเอกชนนำที่ดินในทำเลชั้นดีออกมาปล่อยเช่ามากขึ้นจะเป็นโอกาสสำหรับผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์
ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
7 พฤศจิกายน 2561