สมาคมตลาดตราสารหนี้เผย 9 เดือนอสังหาริมทรัพย์ ออกหุ้นกู้แสนล้าน พบรายเล็กหันระดมทุนเพิ่ม
น.ส.อริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย เปิดเผยว่า ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ผู้ประกอบการกลุ่ม อสังหาริมทรัพย์ออกหุ้นกู้รวม 1 แสนล้านบาท ใกล้เคียงกับการออกหุ้นกู้ใหม่ทั้งปี 2560 ที่มีมูลค่า 1.7 แสนล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การออกหุ้นกู้ถือว่าใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ซึ่งมีสัดส่วน 11% ของมูลค่าคงค้างทั้งหมด และส่วนใหญ่เป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีการระดมทุนเป็นประจำอยู่แล้ว เพื่อนำเงินไปใช้ในโครงการ แต่อาจมีบริษัทขนาดเล็กที่มีความเสี่ยง ไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ อาจมีการออกหุ้นกู้เพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ส่วนใหญ่จะมีหลักทรัพย์มาค้ำประกัน
น.ส.อริยา กล่าวต่อไปว่า กรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาตรการกำกับดูแลการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยนั้น เชื่อว่ากลุ่มที่จะได้รับผลกระทบ คือ ผู้บริโภคที่ซื้อขายคอนโดมิเนียมในการเก็งกำไร ด้านนักลงทุนมีการปรับตัว หลังจากมีบทเรียนจาก 2 ปีที่แล้ว จากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย และบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น (IFEC) ผิดนัดชำระหนี้ตั๋วแลกเงิน จึงมีความระมัดระวังในการลงทุน
รายงานจากสมาคมตลาดตราสารหนี้ฯ ระบุว่า 9 เดือนที่ผ่านมา การออกตราสารหนี้ภาคเอกชนหรือหุ้นกู้ระยะยาวมีมูลค่ารวม 7.1 แสนล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 19% และคาดว่าสิ้นปี 2561 การออกหุ้นกู้จะแตะระดับ 8.8 แสนล้านบาท ถือว่าสูงกว่าเป้าหมายเดิมซึ่งคาดว่าอยู่ที่ 7.2-7.5 แสนล้านบาท
สำหรับการออกตราสารหนี้ระยะยาวเพิ่มขึ้นจากทั้งภาคเศรษฐกิจที่แท้จริงและสถาบันการเงิน โดยในภาคเศรษฐกิจที่แท้จริงในกลุ่มอันดับความน่าเชื่อถือสูง (AA- ถึง AAA) ออกเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนกลุ่มที่ไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Non-Rated) กว่า 70% เป็นการออกหุ้นกู้มีหลักประกัน (Secured Bond)
ทั้งนี้ เอกชนมีการออกหุ้นกู้เพิ่มมากขึ้น ส่วนหนึ่งเพื่อรองรับต้นทุนที่จะสูงขึ้นจากดอกเบี้ยขาขึ้น และรองรับการลงทุนตามโครงการภาครัฐที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ล่าสุด ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันของบริษัท ศุภาลัย ที่ระดับ "A" สะท้อนฐานะทางการเงินที่แข็งแรง มีอัตรากำไรสูงและการก่อหนี้ในระดับปานกลาง อันดับเครดิตยังพิจารณาถึงมาตรการของ ธปท.ที่จะจำกัดสินเชื่อบ้านที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ด้วย
ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
16 ตุลาคม 2561