อสังหาภูเก็ตเนื้อหอม

อสังหาภูเก็ตเนื้อหอม

พาราไดซ์กรุ๊ปกางแผนร่วมทุนขยายโรงแรมคอนโดตั้งงบ4,300ล. เครือพาราไดซ์กรุ๊ปกางแผน 5 ปี พัฒนา 2 โครงการใหญ่ในภูเก็ต พังงา รับการท่องเที่ยวเติบโต นักลงทุนต่างชาติสนโดดเข้าร่วม

นางณัฏฐกัญญา แสงโพธิ์ ประธานกรรมการบริหารในเครือพาราไดซ์ กรุ๊ป และโรงแรมอันดารา รีสอร์ท เรสซิเด้นซ์ เปิดเผยว่า บริษัทได้วางแผนการลงทุนธุรกิจในช่วง 3-5 ปีจากนี้ โดยมี 2 โครงการใหญ่ มูลค่าการลงทุนเบื้องต้นรวมกว่า 4,240 ล้านบาท แบ่งเป็นการพัฒนาและการก่อสร้างโรงแรม และคอนโดในพื้นที่หาดบางเทา จ.ภูเก็ต คาดว่าจะใช้งบลงทุนราว 2,900 ล้านบาท

ทั้งนี้ ล่าสุดมีนักลงทุนจีนและผู้ถือหุ้นอื่นๆ สนใจเข้าร่วมลงทุน ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณาเลือกผู้ที่เข้าร่วมทุน โดยจะมีการตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่ จากนั้นจะยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุน จากสำนักงาน คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) พร้อมจัดทำรายงานประเมินผลกระทบ สิ่งแวดล้อม คาดว่าจะมีความชัดเจนในปี 2562

ด้านการก่อสร้างโครงการดังกล่าวจะเป็นรูปแบบสร้าง-ดำเนินงาน-ขาย แบ่งออกเป็น 4 ระยะ โดยระยะแรกคาดว่าจะสามารถเริ่มก่อสร้างโรงแรมและคลับเฮาส์ได้ภายในปี 2563 คาดแล้วเสร็จในปี 2564 ก่อนที่จะขายโครงการ และนำเงินที่ได้มาพัฒนาก่อสร้างในระยะที่ 2-4 ซึ่งจะเป็นรูปแบบคอนโดมิเนียมและเรสซิเดนซ์ โดยมีเป้าหมายในการขายทำกำไรของพื้นที่ห้องและคอนโด 50%

นอกจากนี้ จะเริ่มพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสในพื้นที่ อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา บนพื้นที่กว่า 1,044 ไร่ ซึ่งเป็นโครงการ พัฒนาอสังหาฯ ระยะยาว 10-15 ปี รวมกว่า 3,000 ยูนิต ในรูปแบบการร่วมลงทุนเช่นกัน เบื้องต้นตั้งงบลงทุนในระยะแรกที่ 1,340 ล้านบาท เป็นการพัฒนาโรงแรมและวิลล่าจำนวน 36 ยูนิต 7 วิลล่า โดยอยู่ระหว่างจัดรายงานประเมินผลกระทบ สิ่งแวดล้อม คาดจะมีความชัดเจนในปี 2562

ขณะที่แผนระยะถัดไปก็จะเริ่มพัฒนาพื้นที่ที่เหลือในรูปแบบคอนโดมิเนียม วิลล่า รวมถึงสนามกอล์ฟพื้นที่ 430 ไร่ เพื่อรองรับแนวโน้มการเติบโตของภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจใน จ.พังงา หลังจากได้รับอนุมัติในการก่อสร้างสนามบินพังงา

นางณัฏฐกัญญา กล่าวเพิ่มเติมว่า ธุรกิจโรงแรมและภาคอสังหาฯ ของภูเก็ตมีการแข่งขันที่สูงและรุนแรง โดยเฉพาะโครงการวิลล่าระดับไฮเอนด์ ที่มีผู้เล่นเข้ามาในตลาดมากยิ่งขึ้น ซึ่งโรงแรมอันดารา รีสอร์ท เรสซิเด้นซ์ ได้มุ่งเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวแบบครอบครัวและไฮเอนด์ โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจากออสเตรเลีย จีน รัสเซีย ไทย และญี่ปุ่น มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยทั้งปีที่ 80%

สำหรับสัดส่วนรายได้ในปีนี้คาดว่าจะเติบโต 5% จากปีก่อนอยู่ที่ 167 ล้านบาท โดยแผนธุรกิจใหม่ที่ดำเนินการจะช่วยให้บริษัทมีรายได้โตต่อเนื่องปีละ 5-10% และใน 5 ปีตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 220 ล้านบาท

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

1 ตุลาคม 2561