ธอส.จ่อชงบอร์ดไฟเขียว "โครงการบ้านล้านหลัง" เล็งเดินเครื่องเฟสแรก 1 แสนยูนิต ฟุ้งผู้ประกอบการอสังหา ริมทรัพย์ให้ความสนใจคึกคัก คาดสิ้นปีสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ทันที 1 หมื่นยูนิต ผ่อนเดือนละไม่เกิน 4 พันบาท ชูดอกเบี้ยต่ำช่วยแบ่งเบาภาระประชาชน
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการธนาคารวันที่ 27 ส.ค.นี้ จะมีการเสนอให้เห็นชอบโครงการบ้านล้านหลัง ที่จะดำเนินการระยะแรกก่อนจำนวน 1 แสนยูนิต หากที่ประชุมเห็นชอบก็จะเสนอให้ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.การคลัง พิจารณาในเดือน ก.ย.2561 และคาดว่าจากนั้นจึงเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเดือน ต.ค.2561 เพื่อให้ทันดำเนินการภายในสิ้นปีนี้
นายฉัตรชัยกล่าวอีกว่า โครงการบ้านล้านหลัง ที่จะดำเนินการระยะแรก 1 แสนยูนิต จะมีราคาเฉลี่ยต่อยูนิตไม่เกิน 1 ล้านบาท เพื่อให้ผู้ที่มีรายได้น้อย-ปานกลาง สามารถกู้ซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองได้ไม่ยาก เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการสนับสนุนให้คนไทยทุกคนมีบ้าน โดยในส่วน 1 แสนยูนิตแรก จะเน้นในพื้นที่กรุงเทพฯ ก่อน โดยอยู่ในพื้นที่เดินทางไม่ลำบาก เช่น ย่านบางซ่อน เป็นต้น รวมทั้งพื้นที่ที่ผู้ประกอบการมีการขอรับสิทธิประโยชน์จากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในหลายพื้นที่ก็จะมาเข้าร่วมในโครงการนี้ด้วย
ทั้งนี้ ธอส.ได้เตรียมวง เงินสินเชื่อเพื่อใช้ในโครงการบ้านล้านหลัง ระยะแรกจำนวน 5 หมื่นล้านบาท แต่จะต้องมีการเสนอไปที่กระทรวงการคลังอีกครั้ง เพราะมีบางส่วนต้องขอรับการจัดชั้นหนี้ของโครงการที่ทำตามนโยบายรัฐบาล หรือพีเอสเอ (PSA) โดยการปล่อยสินเชื่อจะคิดอัตราดอกเบี้ยมีแบบอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี และอัตราดอกเบี้ยคงที่ 5 ปี เฉลี่ยที่ 3% ต่อปี เป็นอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าตลาด โดยเฉพาะช่วงนี้ที่อยู่ในช่วงอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้กู้ เบื้องต้นระยะเวลาการกู้นานสุด 40 ปี จะมีอัตราการผ่อนต่อเดือนไม่ถึง 4 พันบาท
ก่อนหน้านี้ทางกรมธนารักษ์ก็ได้ประกาศจัดทำโครงการบ้านคนไทยประชารัฐสำหรับผู้ มีรายได้น้อยในพื้นที่ราชพัสดุ ทั้งหมด 10 แปลง ใน 8 จังหวัด ได้ผ่านความเห็นชอบจากสำนัก งานอัยการสูงสุดแล้ว และขณะ นี้ได้ทยอยเปิดประมูลไปแล้วหลายจังหวัด อาทิ ชลบุรี เชียง ราย ซึ่งหลังจากนี้คาดว่าจะใช้เวลาในการประมูลอีกระยะหนึ่งก่อนจะเริ่มตอกเสาเข็มก่อสร้างได้ภายในสิ้นปีนี้ และจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 1 ปี ทำให้ผู้มีรายได้น้อยจะสามารถเข้าอยู่ได้ในช่วงสิ้นปี 2562 โดยบ้านในโครงการนี้จะเป็นบ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ และคอนโดมิเนียม ราคาถูกหลังละไม่เกิน 350,000-700,000 บาท ให้ผู้มีรายได้น้อยได้พักอาศัย
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
14 สิงหาคม 2561