ตลาดบ้านตากอากาศภูเก็ตฮิตซื้อลงทุน

ตลาดบ้านตากอากาศภูเก็ตฮิตซื้อลงทุน

ซีบีอาร์อี ระบุภูเก็ตทำเลสุดฮิต บ้านพักตากอากาศนิยมซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่า

 

น.ส.ประกายเพชร มีชูสาร ผู้อำนวยการ แผนกซื้อขายบ้านพักตากอากาศ ซีบีอาร์อี ภูเก็ต เปิดเผยว่า ตลาดอสังหาฯ ในภูเก็ตแต่เดิมผู้ซื้อส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติที่ทำงานในเอเชีย ที่ต้องการบ้านพักหลังที่ 2 จากนั้นตลาดก็ขยายไปสู่ผู้ซื้อชาวรัสเซีย ชาวจีน และเอเชียอื่นๆ รวมถึงไทย ซึ่งความสำเร็จของตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตได้ขยายไปยังจังหวัดใกล้เคียง เรียกได้ว่าตลาดภูเก็ตและตลาดใกล้เคียง (Greater Phuket Market) หรือตลาดชายฝั่งอันดามัน สำหรับธุรกิจโรงแรม รวมถึงโอกาสที่จะมีการพัฒนาที่พักตากอากาศตั้งแต่บริเวณเขาหลักไปจนถึงกระบี่

 

ปัจจุบันภูเก็ตมีห้องพักในโรงแรมทั้งหมดถึง 2.3 หมื่นห้อง ไม่รวมเกสต์เฮาส์ คอนโดมิเนียมตากอากาศ 8,000 ยูนิต และวิลล่าตากอากาศ 4,000 หลัง ตลาดที่พักตากอากาศเกิดการเปลี่ยนแปลงเห็นได้ชัดว่า วันนี้ผู้ซื้อที่พักตากอากาศไม่เพียงแต่ต้องการสถานที่สำหรับพักผ่อนในวันหยุดเท่านั้น แต่ยังต้องการสร้างรายได้จากบ้านพักตากอากาศด้วย ซึ่งผู้พัฒนาโครงการจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนสินค้าของตนเองให้ตรงกับความต้องการของผู้ซื้อ รวมทั้งปฏิบัติตามข้อกำหนดในการขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมเพื่อให้สามารถปล่อยเช่ารายวันได้

 

"ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าโครงการที่พักตากอากาศที่บริหารอาคารโดยเครือโรงแรมอย่าง บันยันทรี และเชอราตัน รวมถึงวิลล่าหรูระดับท็อปที่มีราคาขายสูงกว่า 500 ล้านบาทต่อหลังอย่างลายัน เรสซิเดนเซส บาย อนันตรา อวาดินา ฮิลส์ บาย อนันตรา และดิ เอสเตท แอท มอนท์เอซัวร์ ล้วนมีกลุ่มเป้าหมายเป็นลูกค้าในตลาดระดับบน" น.ส.ประกายเพชร กล่าว

 

อย่างไรก็ตาม ปีที่ผ่านมาภูเก็ตมีจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามายังภูเก็ตที่มากถึง 8.4 ล้านคน ซึ่งยังมีความท้าทายในยุคแห่งการท่องเที่ยว ตั้งแต่เรื่องการดูแล สิ่งแวดล้อม การจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวที่มีมากเกินไป ไปจนถึงความพยายามในการสร้างความสมดุลระหว่างความต้องการให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเติบโต

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

9 สิงหาคม 2561