เอกชนคึกชิงที่รถไฟ

เอกชนคึกชิงที่รถไฟ

เอกชนรายใหญ่แห่จองที่ดินมักกะสัน รฟท.คาดมูลค่าที่ดินแนวรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบินพุ่ง 5 หมื่นล้าน

นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า โครงการรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบินอีอีซีนั้นจะมีพื้นที่ให้เอกชนพัฒนาเชิงพาณิชย์ทั้งหมด 175 ไร่ รวมมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านบาท มีระยะเวลาสัมปทาน 50 ปี แบ่งเป็น 1.พื้นที่มักกะสัน 150 ไร่ มูลค่า 4 หมื่นล้านบาท 2.พื้นที่ศรีราชา 25 ไร่ มูลค่า 1 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ ในส่วนพื้นที่มักกะสันจะสามารถส่งมอบได้จำนวน 100 ไร่ ส่วนอีก 50 ไร่ จะทยอยส่งมอบพื้นที่เพราะติดปัญหาพ่วงรางเข้าไปยังโรงซ่อมบำรุงมักกะสัน เบื้องต้นคาดว่าเอกชนสนใจลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ เช่น ที่พักอาศัยและคอนโด เพราะคืนทุนได้ตามระยะเวลาสัมปทาน ขณะที่พื้นที่ศรีราชา 25 ไร่นั้นอยู่ใจกลางเมืองแถบย่านทางรถไฟบริเวณโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา เหมาะกับการพัฒนาเป็นย่านการค้าและแหล่งรวมธุรกิจของรถไฟความเร็วสูงอีอีซี

นายวรวุฒิ กล่าวว่า สำหรับการเวนคืนพื้นที่เพื่อก่อสร้างโครงการนั้นจะใช้งบประมาณราว 3,500 ล้านบาท รวมพื้นที่ 850 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ใน จ.ฉะเชิงเทรา จำนวน 550 ไร่ และบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ รวมถึงสนามบินอู่ตะเภา คาดว่าจะมีประชาชนได้รับผลกระทบ 250 ครัวเรือน ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา โดยอยู่ระหว่างการออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืน (พ.ร.ฎ.) น่าจะมีความชัดเจนเร็วๆ นี้

สำหรับการชี้แจงภาพรวมการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินนั้น นักลงทุนส่วนใหญ่สอบถามเรื่องการก่อสร้าง โดยเฉพาะพื้นที่ทับซ้อนกับโครงการสายสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อพญาไท สายสีแดงเข้ม ช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง และช่วงสถานีดอนเมืองของโครงการสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ที่ต้องรับผิดชอบการก่อสร้างโครงสร้างรองรับรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน และไทย-ญี่ปุ่นในอนาคต

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

25 กรกฎาคม 2561