แอลทีวี ฉุดยอดคอนโดใหม่วูบ

แอลทีวี ฉุดยอดคอนโดใหม่วูบ

'คอลลิเออร์'ชี้มาตรการแอลทีวีของแบงก์ชาติ กระทบภาคอสังหาฯโดยเฉพาะกลุ่มคอนโดมิเนียม ไตรมาส 2 ชะลอเปิดโครงการใหม่เพียบ ชี้ลดราคากว่า 30% ระบายสต๊อกเก่า ฉุดมูลค่าลงทุนครึ่งปีวูบเกือบ 20% กำลังซื้อต่างชาติแผ่ว เน้นเฉพาะทำเลดี

          นายภัทรชัย ทวีวงศ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัท คอลลิเออร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า จากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับเกณฑ์สินเชื่อกับหลักทรัพย์ (แอลทีวี) ของอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2562 รวมถึงเรื่องเกณฑ์การปรับการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างใหม่ ปัญหาราคาที่ดินที่อยู่ในช่วงขาขึ้น รวมถึงภาพรวมของเศรษฐกิจที่ยังไม่เติบโตอย่างชัดเจนและความไม่มั่นใจของประชาชนในภาคการเมืองสำหรับรัฐบาลใหม่ถือว่าเป็นปัจจัยที่กระทบภาพรวมของภาคอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะในกลุ่มของคอนโดมิเนียมเป็นอย่างมาก

          นายภัทรชัยกล่าวว่า โดยพบว่าในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2562 ที่กำลังจะผ่านไปนี้ ผู้ประกอบการชะลอตัวการเปิดขายในส่วนของโครงการใหม่ลงเป็นจำนวนมาก เน้นนำโครงการเก่าที่เหลือขายในส่วนที่มีการก่อสร้างแล้วเสร็จมาลดราคา ซึ่งผู้ประกอบการบางรายลดราคามากกว่า 30% เพื่อเป็นการระบายสต๊อกคงค้าง ซึ่งจากการสำรวจพบว่า คอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในกรุงเทพฯ ในช่วงไตรมาสที่ 2 ปีนี้ มีประมาณ 26 โครงการ 9,632 ยูนิต ด้วยมูลค่าการลงทุนทั้งหมดอยู่ที่ 74,870 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงไตรมาสก่อนหน้า 1,189 ยูนิต หรือคิดเป็น 14.1% และเพิ่มขึ้นจาก ช่วงไตรสมาสที่ 2 ปี 2561 ที่ประมาณ 1,121 ยูนิต หรือคิดเป็น 13.2% ส่งผลให้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 มีคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ 18,075 ยูนิต มูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 120,302 ล้านบาท น้อยลงกว่าในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าประมาณ 4,486 ยูนิต หรือคิดเป็น 19.9%

          นายภัทรชัยกล่าวว่า กำลังซื้อในส่วนของต่างชาติเริ่มมีแนวโน้มลดลง นักลงทุนชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีนจะเน้นซื้อเฉพาะโครงการที่ตั้งอยู่บนทำเลที่ดี เช่น พระราม 9- รัชดา หรือในพื้นที่ใจกลางเมือง ราคาที่เหมาะสม รวมถึงต้องเป็นโครงการที่พวกเขายังสามารถทำกำไรหรือให้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างดี

          นายภัทรชัยกล่าวว่า สำหรับราคาขายเฉลี่ยของโครงการคอนโดมิเนียมในช่วงไตรมาสที่ 2 ปีนี้ อยู่ที่ประมาณ 148,365 บาท/ตร.ม. ซึ่งพบว่า มีการปรับขึ้นจากช่วงไตรมาสก่อนหน้าประมาณ 45,889 บาท/ตร.ม. หรือคิดเป็น 44.8% และเพิ่มขึ้นจากช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2561 ประมาณ 13,365 บาท/ตร.ม. หรือคิดเป็น 9.9% เนื่องจากโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ในช่วงไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา กว่า 71.8% ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯชั้นใน ซึ่งมีหลายโครงการที่ราคาขายต่อตารางเมตรสูงกว่า 200,000 บาท/ตร.ม. จึงส่งผลให้ราคาขายของคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ช่วงไตรมาสที่ 2 นี้ พุ่งสูงกว่าในช่วงไตรมาสก่อนหน้าถึง 44.8%

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน

27 มิถุนายน 2562