"อาคม" สั่ง รฟท. เร่งหารือ "7 ข้อเทคนิค" รถไฟไทย-จีน

'อาคม' สั่ง รฟท. เร่งหารือ 7 ข้อเทคนิคกับฝ่ายจีน ก่อนสรุปไว้ในสัญญา 2.3 ให้พร้อมนำเข้าหารือกับจีนในครั้งที่ 28 นี้ พร้อมเตรียมสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ รองรับรถไฟเป็นการเฉพาะ ล่าสุดเชิญกองทัพบกเข้าหารือขอใช้พื้นที่ 216 ไร่ สร้างสถานีปากช่อง ก่อนมอบ รฟท. ประสานกรมธนารักษ์ต่อไป  

นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 2/2562 ว่า ในหลักการสำคัญๆมี 2-3 เรื่อง โดยได้มีการรายงาน 3 ฝ่าย ของการประชุมครั้งที่ 27 ที่ผ่านมาอีกด้วย ซึ่งประกอบด้วย ไทย, สปป.ลาว และจีน ที่ฝ่ายจีนดำเนินการก่อสร้างสะพานในพื้นที่ สปป.ลาว ข้ามมาเชื่อมต่อกับฝั่งไทย เนื่องจากต้องก่อสร้างสะพานแยกออกมาจากที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบันนี้ โดยจะก่อสร้างสะพานแห่งใหม่ห่างจากสะพานเดิมประมาณ 30 เมตรด้านใต้ลงมา ออกแบบสะพานและก่อสร้างโดยใช้มาตรฐานของจีน พร้อมกับวางรางมาตรฐาน ขนาด 1.435 เมตร บนสะพานดังกล่าวนี้ด้วย              

นอกจากนั้น ยังกล่าวถึงศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าและผู้โดยสาร โดยในฝั่ง สปป.ลาว มีศูนย์เปลี่ยนถ่ายตั้งอยู่ที่ท่านาแล้ง ใกล้เมืองหลวงเวียงจันทน์ ส่วนฝ่ายไทยใช้สถานีนาทาเป็นศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้า ส่วนสถานีผู้โดยสารจะใช้สถานีหนองคายให้บริการ ดังนั้น แนวเส้นทางจากจีนสู่ สปป.ลาว เข้ามายังไทยจะเป็นทางขนาดมาตรฐาน 1.435 เมตร หากเป็นขบวนสินค้าจะเข้าสู่สถานีนานาได้ทันที ก่อนที่จะเปลี่ยนถ่ายลงสู่ทางคู่ขนาด 1 เมตร ณ จุดสถานีเปลี่ยนถ่ายนาทาต่อไป ส่วนขบวนรถผู้โดยสารจะเปลี่ยนขบวนรถไฟที่สถานีหนองคาย เนื่องจากสถานีแห่งนี้ฝ่ายไทยมีโครงการรถไฟไฮสปีดเทรนไปเชื่อมต่อรองรับไว้แล้ว          

นอกจากนั้น คณะกรรมการยังได้เชิญกองทัพบกเข้าร่วมหารือ กรณีจะขอใช้พื้นที่ของกรมธนารักษ์ จำนวน 216 ไร่ เพื่อก่อสร้างสถานีปากช่อง ซึ่งกองทัพบกไม่ขัดข้อง ผ่านความเห็นชอบเรียบร้อยแล้ว และ รฟท. จะต้องทำหนังสือถึงกรมธนารักษ์เพื่อขอใช้ตามวัตถุประสงค์ต่อไป              

ประการสำคัญหลายเรื่องยังไม่ได้หารือจนใกล้สรุป อาทิ เรื่องเทคนิค โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้ รฟท. ไปเร่งหารือกับฝ่ายจีนใน 7 ข้อด้วยกัน ซึ่งโดยสรุปฝ่ายจีนยังให้รายละเอียดมาไม่ครบ จึงพิจารณาด้านเทคนิคไม่แล้วเสร็จ ก่อนที่จะนำไประบุไว้ในสัญญาข้อ 2.3 สำหรับการลงนามสัญญากับฝ่ายจีนครั้งที่ 28 นี้ต่อไป            

โดยข้อมูลด้านเทคนิคทั้ง 7 ข้อนั้น ประกอบไปด้วย 1.ค่าบริหารโครงการ วงเงิน 1,400 ล้านบาท, 2.ค่าเอกสารออกแบบงานระบบต่าง ๆ 700 ล้านบาท, 3.ค่าการตรวจสอบงานระบบร่วมกัน, 4.ค่าแผนการดำเนินงานในแต่ละส่วน และ 5.ข้อมูลบุคลากรหลัก รวมข้อ 3-5 วงเงิน 365 ล้านบาท, 6.เอกสารแสดงความต้องการ หรือ ข้อเรียกร้องเพิ่มเติมของฝ่ายจีน วงเงิน 1,100 ล้านบาท และ 7.เอกสารแสดงการบริหารจัดการ ขอบเขตของงานแต่ละฝ่ายที่คาบเกี่ยวระหว่างงานโยธากับงานระบบ ยังไม่มีค่าใช้จ่ายกำหนดไว้

 

ที่มา : www.thansettakij.com

25 มีนาคม 2562