รอแยลเฮาส์ ขยายไลน์ พัฒนาอสังหาเพื่อขาย

รอแยลเฮาส์ ขยายไลน์ พัฒนาอสังหาเพื่อขาย

ถือว่าเป็นบิ๊กเนมของวงการธุรกิจรับสร้างบ้านสำหรับแบรนด์ "รอแยลเฮ้าส์" ที่ดำเนินงานมากว่า 30 ปี ซึ่งปัจจุบันเป็นการบริหารงานโดยนิวเจนรุ่นที่ 2 มีสาขาอยู่ทั่วประเทศแล้วมากกว่า 12 สาขา และสร้างบ้านมาแล้วมากกว่า 5,000 หลัง ครอบคลุมหลายเซ็กเมนต์

ทั้งนี้ ล่าสุดรอแยลเฮ้าส์ได้แตกธุรกิจ ตั้งบริษัท รอแยลเฮ้าส์ อีเลฟเว่น เพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งแนวราบและสูงโดยจับกลุ่มระดับ 2 ล้านบาท หรือราคาต่อตารางเมตรที่ประมาณ 6-8 หมื่นบาท

โกศล โควิสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท รอแยลเฮ้าส์ อีเลฟเว่น เปิดเผยว่า ได้จัดตั้งบริษัท รอแยลเฮ้าส์ อีเลฟเว่น ด้วยทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท ขึ้นภายใต้สโลแกน The Balanced Living เพื่อดำเนินธุรกิจพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ต่อยอดโอกาสและความท้าทายในการตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้บริโภค นอกเหนือจากการรับสร้างบ้านที่มีข้อจำกัดเพียงปีละประมาณ 150 หลัง

สำหรับแผนการพัฒนาโครงการนั้นขึ้นอยู่กับที่ดินซึ่งต้องเป็นทำเลที่มีศักยภาพ อีกทั้งต้นทุนที่ดินต้องเหมาะสม เพื่อให้สามารถทำราคาขายได้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายและกำลังซื้อ โดยเน้นกลุ่มนิชมาร์เก็ตที่มีรายได้อยู่ที่ 3-4 หมื่นบาท ซึ่งสามารถซื้อที่อยู่อาศัยระดับประมาณ 2 ล้านบาทได้และเป็นฐานใหญ่ในตลาด ขณะเดียวกันมองว่า ตลาดระดับบนหรือไฮเอนด์มีการแข่งขันสูง อีกทั้งกลุ่มนี้มีฐานลูกค้าจำนวนน้อย ดังนั้นจึงไม่เข้าไปเล่นในตลาดนี้

โกศล กล่าวว่า รอแยลเฮ้าส์ไม่ใช่ดำเนินธุรกิจรับสร้างบ้านเท่านั้น แต่ที่ผ่านมาเคยมีประสบการณ์การพัฒนาที่อยู่อาศัยมาแล้วหลายโครงการทั้งแนวราบและแนวสูง เช่น โครงการรอยัล ทาวเวอร์ 3 อินทามระ 25 โครงการกรีน พีซ แมนชั่น ประดิพัทธิ์ ซอย 7 รอยัล กมลา ภูเก็ต ฯลฯ ทั้งนี้เพื่อความชัดเจนจึงได้จัดตั้งบริษัทใหม่ เพิ่มเซ็กเมนต์และทางเลือกในการช่วยตอบโจทย์ด้านที่อยู่อาศัย โดยจุดแข็งหลักของบริษัท คือการควบคุมงานการก่อสร้างด้วยตัวเองผ่านประสบการณ์กว่า 30 ปี

อีกทั้งยังมีพันธมิตรที่พร้อมสร้างความแข็งแกร่งและสร้างความโดดเด่นให้กับโปรดักต์ เช่น โครงการนี้ได้ร่วมกับบริษัท แกรนด์โฮมมาร์ท นำเฟอร์นิเจอร์เข้ามาตกแต่งเป็นโครงการแรก ขณะเดียวกันยังได้นำ Reed Diffuser ซึ่งเป็นน้ำหอมปรับอากาศจากออกานิก้า เฮ้าส์ ของ ศรีริต้า เจนเซ่น เพื่อสร้างประสบการณ์กลิ่นสัมผัสเฉพาะให้แก่โครงการ

อย่างไรก็ดี หากโครงการนี้กระแสตอบรับดี ก็พร้อมต่อยอดพัฒนาโครงการในปีหน้าอย่างน้อย 1 โครงการ โดยมีที่ดินสะสมของครอบครัวอีก 10 แปลงทั้ง กทม.และต่างจังหวัด เช่น นครอินทร์ ภูเก็ต เชียงใหม่ มีนบุรี ลาดพร้าว ฯลฯ ที่มีศักยภาพและพร้อมพัฒนาตาม โมเดลนี้

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

7 พฤศจิกายน 2561