ฉะเกณฑ์คุมกู้บ้านหลังสองโหด

ฉะเกณฑ์คุมกู้บ้านหลังสองโหด

แบงก์รัฐแจงไม่สามารถใช้เกณฑ์คุมกู้บ้านหลังสองได้ ห่วงกระทบผู้มีรายได้น้อย ชี้ ธปท.ต้องกำหนดนิยามหลักเกณฑ์ให้ชัดเจน เอกชนค้านคุมสินเชื่อบ้านหลังสอง พร้อมเสนอให้คุมกู้บ้านหลังสาม-เลื่อนเวลาใช้มาตรการ

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยภายหลังเข้ารับฟังความเห็น (Public Hearing) กับธนาคารแห่งประ เทศไทย (ธปท.) กรณีการปรับปรุงเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ว่า เกณฑ์ดังกล่าวไม่สามารถใช้ร่วมกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐได้ เพราะจะกระทบกับผู้ที่มีรายได้น้อยและรายได้ปานกลางที่ต้องการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยจริงไม่ได้เป็นการแสวงหาผลกำไร จึงต้องการให้ ธปท.พิจารณาปรับหลักเกณฑ์การคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัยให้มีความเหมาะสม

ทั้งนี้ เกณฑ์การปล่อยสิน เชื่อจะคุมในส่วนที่ลูกค้าที่ต้องการกู้บ้านหลังที่สอง แต่ยังผ่อนหลังแรกไม่หมด ซึ่งปัจจุบัน ธอส. มีลูกค้าในลักษณะนี้มาก เช่น มีบ้านอยู่ไกลแต่ต้องการซื้อคอนโดฯในเมืองใกล้ที่ทำงาน จึงต้องการให้ ธปท.ผ่อนปรนเกณฑ์วางเงินดาวน์อย่างน้อย 20% ของมูลค่าหลักประกัน (LTV limit 80%) ให้คุมเฉพาะบ้านหลังที่ 2 ที่มีราคาตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป รวมทั้งเลื่อนเวลาบังคับใช้เกณฑ์ดังกล่าว จากเดิมเริ่มวันที่ 1 ม.ค.2562 ออกไปเพื่อให้ธนาคารปรับตัว ส่วนเกณฑ์การนับสินเชื่อ topup ที่ใช้หลักประกันเดียวกันให้ใช้ตามเดิม

นายฉัตรชัยกล่าวอีกว่า ธอส.จะขอความเห็นจากกระทรวงการคลังในการบังคับใช้เกณฑ์ดังกล่าวของ ธปท. หากกระ ทรวงการคลังให้นโยบายดำเนินการอย่างไรก็จะปฏิบัติตาม ซึ่งจะมีการหารือผ่านผู้แทนกระทรวงในการประชุมคณะกรรมการธนาคาร วันที่ 29 ต.ค.2561 โดยเกณฑ์ดังกล่าวมองว่าจะส่งผลกระทบมากกับผู้ที่มีรายได้น้อยและปานกลาง

รายงานข่าวจากธนาคารพาณิชย์ระบุว่า ในการรับฟังความคิดเห็นช่วงครึ่งเช้า ซึ่งเป็นการรับฟังความเห็นร่วมกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ได้มีการเสนอความเห็นต่อ ธปท.ถึงหลักเกณฑ์ดังกล่าวหลายเรื่อง อาทิ ให้วางเงื่อนไขผ่อนปรนช่วงเปลี่ยนผ่าน สำหรับเกณฑ์การนับบ้านหลังสอง ซึ่งปัจจุบันมองว่าบ้านหลังที่สองมีความจำเป็นต่อการใช้ชีวิต จึงต้องการเสนอให้ใช้เกณฑ์สำหรับบ้านหลังที่สามขึ้นไปได้หรือไม่ กรณีลูกค้าซื้อก่อนออกประกาศและบ้านเสร็จพร้อมโอนหลัง ม.ค.2562 จะต้องบังคับใช้เกณฑ์ย้อนหลังหรือไม่ และเสนอให้ ธปท.มีการชะลอการเริ่มใช้เกณฑ์ดังกล่าวออกไป

นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยภายหลังเข้ารับฟังความเห็น (Public Hearing) กับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า ถือเป็นยาแรงเกินไปสำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน เนื่องจากปัจจุบันตลาดอสังหาริมทรัพย์ไม่ได้เติบโตร้อนแรง หรือมีที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่สูงเหมือนที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ยังไม่พบสัญญาณฟองสบู่ในอสังหาริมทรัพย์ไทยด้วย ผู้ประกอบการจึงต้องการให้ ธปท.ทบทวนและขอให้ใช้มาตรการกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยในสัญญาที่ 3 ขึ้นไปมากกว่า และให้เลื่อนการใช้เป็นวันที่ 1 ก.ค.2562 จากที่ ธปท.เสนอให้ใช้ในวันที่ 1 ม.ค.2562

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์

12 ตุลาคม 2561