ไขลานพีพีพีค้างท่อ4แสนล้าน ตีกลับทางด่วนนครปฐม-ชะอำ

ไขลานพีพีพีค้างท่อ4แสนล้าน ตีกลับทางด่วนนครปฐม-ชะอำ

นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ  (คณะกรรมการพีพีพี) ซึ่งมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้เร่งรัดให้ดำเนินโครงการลงทุนภายใต้มาตรการพีพีพี ฟาสต์แทรก 8 โครงการ ให้ได้ตามกรอบที่กำหนด ทำให้ในปี 61 นี้ จะมีการอนุมัติโครงการลงทุนพีพีพีเพิ่มได้อีก 4 แสนล้านบาท ประกอบด้วย โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-วงแหวนกาญจนาภิเษก และโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ส่วนตะวันตกและตะวันออก วงเงินลงทุนรวม 366,274 ล้านบาท และโครงการทางหลวงพิเศษ (มอเตอร์เวย์) นครปฐม-ชะอำ วงเงินลงทุนอีกประมาณ 7.9 หมื่นล้านบาท

 

นายประภาศ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ พีพีพี ยังได้สั่งให้ทบทวนโครงการทางหลวงพิเศษ (มอเตอร์ เวย์) นครปฐม-ชะอำ วงเงิน 7.9 หมื่นล้านบาท เนื่องจากคณะกรรมการฯ เห็นว่ารูปแบบของโครงการลงทุนน่าจะเข้าข่ายกฎหมายทางหลวงสัมปทานมากกว่าทางหลวงพิเศษ จึงมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับไปพิจารณาและนำกลับมาเสนอให้ได้ในเดือน ก.ย.นี้แทน โดยกฎหมายทั้ง 2 ส่วนมีข้อแตกต่างกัน ถ้าเป็นทางหลวงสัมปทานจะไม่มีข้อจำกัดในเรื่องการคิดค่าผ่านทาง แต่ถ้าเป็นทางหลวงพิเศษจะมีข้อจำกัดในการคิดค่าผ่านทาง

 

อย่างไรก็ตามที่ประชุมได้เห็นชอบในหลักการให้เอกชนร่วมลงทุนของโครงการพัฒนาสถานีขนส่งสินค้า ของกรมการขนส่งทางบก 2 โครงการ ได้แก่  โครงการศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม มูลค่า 1,361 ล้านบาท โดยภาครัฐเป็นผู้ลงทุนค่าที่ดิน ค่าก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานส่วนกลางและอาคารที่ภาครัฐใช้ประโยชน์ ค่าควบคุมงานก่อสร้าง ส่วนภาคเอกชนลงทุนในค่าก่อสร้างอาคารที่ก่อให้เกิดรายได้และค่าเครื่องมืออุปกรณ์ ระยะเวลาโครงการ 30 ปี อีกโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จังหวัดเชียงราย มูลค่า 2,829 ล้านบาท โดยมีลักษณะการลงทุนเช่นเดียวกับโครงการแรก แต่ระยะเวลาสั้นกว่าเพียง 15 ปี ซึ่งต้องเสนอให้ ครม.อนุมัติต่อไป

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

10 สิงหาคม 2561