ขึ้นดอกเบี้ยบ้านไม่กระทบตลาด

ขึ้นดอกเบี้ยบ้านไม่กระทบตลาด

ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ไม่หวั่น แบงก์จ่อขยับดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน ชี้ไม่กระทบตลาดและผู้ซื้อ เชื่อแบงก์ยังแข่งกันแย่งลูกค้า ขณะที่ครึ่งปีหลัง มองกันแข่งแรง แนวโน้มลูกค้าต่างชาติดี นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแนวโน้มธนาคารพาณิชย์เตรียมเลิกการจัดโปรโมชันสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ โดยเฉพาะในกลุ่มสินเชื่อบ้าน

ในช่วงครึ่งปีหลัง 2561  หลังธนาคารกรุงศรีอยุธยา นำร่องระบุจะทยอยขยับขึ้นครั้งละ 0.25-0.5% ตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคมเป็นต้นไปว่าเชื่อจะไม่กระทบกับผู้ซื้อหรือโอนบ้านใหม่ เนื่องจากสินเชื่อบ้านถือเป็นตลาดหลักที่ธนาคารพาณิชย์แข่งขันกันสูง เป็นหนี้ที่มีแนวโน้มดีต่อเนื่อง  โดยเฉพาะกลุ่มบ้านและคอนโดฯ ที่กระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯ หรือตามแนวรถไฟฟ้า ซึ่งในอนาคตราคาขายจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะฉะนั้นถือเป็นหลักประกันที่ดี และไม่จำเป็นต้องมีเรื่องดอกเบี้ยเป็นตัวช่วย ขณะที่การขึ้นดอกเบี้ยบ้านจะส่งผลให้สัดส่วนผู้กู้ผ่านลดน้อยลงหรือไม่นั้น ระบุ ท้ายที่สุด แบงก์จะมีการบริหารความเสี่ยงภายในออกมาเอง โดยที่จะไม่ใช่การขึ้นดอกเบี้ยแบบก้าวกระโดดกับการขอสินเชื่อบ้านใหม่อย่างแน่นอน เพราะยังต้องการสร้างยอดปล่อยสินเชื่อให้เติบโตขึ้นอีก

"ปัจจุบันยอดลูกค้าเอง ก็ทรงตัว กู้ยาก แบงก์ก็ต้องมีเกณฑ์ใหม่ๆ มาสนับสนุนอยู่แล้ว แต่หากมีการปรับดอกเบี้ยขึ้นจริง น่าจะกระทบกับผู้กู้เดิมเป็นหลัก ไม่ได้มีผลกับผู้กู้ใหม่ เพราะที่ผ่านมา พบแบงก์ขนาดเล็ก-กลาง มีการขยายพอร์ตธุรกิจมาเจาะสินเชื่อบ้านกันมากขึ้น ทำให้แบงก์ใหญ่ยังจำเป็นต้องรักษามาร์เก็ตแชร์ให้คงที่ ขณะเดียวกันก็ต้องจับลูกค้าใหม่ด้วย"

ส่วนแนวโน้มการแข่งขันในตลาดอสังหาริมทรัพย์ช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าจะมีการแข่งขันที่เข้มข้นรุนแรงขึ้น หลังจะมีการทยอยเปิดโครงการใหม่ของแต่ละบริษัทอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นผลดีต่อผู้ซื้อ โดยเฉพาะตลาดกลุ่มบนที่คึกคัก ทั้งจะได้เห็นการพัฒนาโครงการผ่านการร่วมทุนกับบริษัทต่างชาติอีกจำนวนมาก เพราะแนวโน้มลูกค้าต่างชาติมีสูงขึ้น จากปัจจุบันสัดส่วนลูกค้าต่างชาติเฉลี่ย 18-20% แต่มองว่าภายใน 5-10 ปีอาจโตได้ถึง 30%

นอกจากนี้ นายพีระพงศ์ ยังกล่าวถึง พ.ร.บ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่จะส่งผลต่อแนวโน้มที่อยู่อาศัยในอนาคต ว่าส่วนตัวเห็นด้วยกับกฎหมายดังกล่าว เพราะถือเป็นนโยบายที่ดี  ที่จะเปิดโอกาสให้ผู้พัฒนาที่ดิน คืนประโยชน์สู่ประเทศชาติบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ต้องจ่ายภาษีหากมีการถือครองที่ดินว่างเปล่าจำนวนมากๆ เนื่องจากปัจจุบันการเก็งกำไรเรื่องที่ดิน ส่งผลเสียต่อระบบเศรษฐกิจมากกว่าผลดี แต่ทั้งนี้เชื่อว่า กฎหมายดังกล่าวยังจะไม่มีผลบังคับใช้เร็วๆนี้ และอาจเลื่อนล่าช้าออกไปอีก

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ

9 สิงหาคม 2561